แนวโน้มเทคโนโลยีในอนาคต
1.ปากกาเซนเซอร์อิเล็กทรอนิกส์
Phree pen คือปากกาที่จะช่วยให้คุณง่ายต่อการจดบันทึกทุกสิ่งลงในพื้นผิวใดๆ
ก็ได้ มังจะถูกแปลงข้อมูลดิจิตอลลงบนสมาร์ทโฟนของคุณ หรือคอมพิวเตอร์
หากมีงานด่วนแล้วไม่มีกระดาษโน๊ต ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณอีกต่อไป
2.Smart home
ปี 2017
ที่ผ่านมา อุปกรณ์ประเภทลำโพงที่สั่งงานด้วยเสียง
กลายเป็นที่นิยมพอสมควร บริษัทเกี่ยวข้องที่ผลิตอุปกรณ์เหล่านี้ได้ให้ความสนใจ โดย
Alexa จาก Amazon ถือว่าเป็นอุปกรณ์ภายในบ้านที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ
ซึ่งหลังจากได้รับความนิยมพอสมควรก็มีหลายบริษัท
ได้ให้ความสนใจพัฒนาและผลิตออกมาหลากหลายรุ่นด้วยกันในตลาดประเภทนี้ อุปกรณ์ประเภท
Smart home ที่ส่งงานด้วยเสียง
เป็นที่นิยมและสนใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งฟังก์ชั่นการทำงานด้วยเสียง
น่าจะมีแนวโน้มที่จะเอาไปพัฒนาสานต่อเพื่อไปพัฒนาเอาไปใช้กับอุปกรณ์อย่างอื่นได้อีกด้วย
3.สงครามในตลาด “โน้ตบุ๊ค” จะดุเดือดอีกครั้ง
ตลาดโน็ตบุ้คที่เงียบเหงามาหลายปี
เราจะได้เห็นการแข่งขันของผู้ผลิตโน้ตบุ๊คกันอย่างดุเดือด
ซึ่งโน้ตบุ๊คประเภทที่มีน้ำหนักเบา ประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์การพกพา ดีไซน์สวยงาม
สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน อาจจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ในฝั่งผู้ผลิตซีพียูสองค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Intel และ AMD จะยังขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด และที่น่าจับตามอง คือ Qualcomm ที่เริ่มหันมาพัฒนาซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊คที่ใช้ Windows 10 S โดยมี ASUS กับ HP ได้สองพาร์ทเนอร์แรกเข้าร่วมด้วยในการพัฒนาครั้งนี้
4.Virtual
Reality จะเริ่มฉลาดมากขึ้น และอนาคตเราจะมี Avatar ในโลก 3D ให้ใช้งาน
ภายในปี 2017 เราจะได้เห็นอุปกรณ์
Virtual Reality (VR) เกิดขึ้นมามากมาย
และอุปกรณ์เหล่านั้นจะสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ดีขึ้น และจะเริ่มมี Virtual
Avatar ให้เราได้ใช้แทนตัวเราเองกันในโลก 3D ส่วนในปี
2027 นั้นเราจะได้ใช้งาน Sensor ที่หลากหลายบนระบบ
VR และสามารถสร้างภาพเสมือนขึ้นมาในโลกจริงได้
ทำให้มนุษย์เราต้องปรับตัวเรื่องการรับรู้สิ่งต่างๆ บนโลกกันใหม่
ที่จะเพิ่มจากการมองและการฟังในระบบ VR ให้รวมถึงการสัมผัสด้วย
5.Quantum
Computing จะทำให้การเข้ารหัสในปัจจุบันใช้งานไม่ได้อีกต่อไป
และเทคโนโลยีการเข้ารหัสแบบใหม่ๆ จะต้องเกิดขึ้นมา
ในปี 2017 โซลูชันทางด้านคณิตศาสตร์ใหม่ๆ
สำหรับใช้ในการเข้ารหัสจะถูกนำมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลการใช้ยาและข้อมูลพันธุกรรมของผู้ป่วยภายในโรงพยาบาล
ซึ่งการเข้ารหัสแบบ Homomorphic นั้นจะถูกนำมาใช้เพื่อให้การนำ
Cloud Computing มาจัดเก็บข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนได้อย่างมั่นใจ
และทำให้การทำ Preduction หรือ Alert สำหรับเนื้อหาเหล่านี้เป็นจริงขึ้นมาได้
โดย Homomorphic Encryption นี้จะถูกนำมาใช้ก่อนในธุรกิจการเงินเพื่อปกป้องข้อมูลของธนาคารให้ปลอดภัย
ส่วนปี 2027 นั้นคณิตศาสตร์จะก้าวหน้าไปเป็นอย่างมาก
และจะเข้าสู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีการเข้ารหัส ในขณะที่การมาของ Quantum
Computer นั้นจะทำให้การเข้ารหัสที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นใช้งานไม่ได้ไปทั้งหมด
ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นเทคโนโลยีการเข้ารหัส Quantum ที่กำลังพัฒนากันอยู่นี้ก็จะถูกนำมาใช้ทดแทนการเข้ารหัสในปัจจุบันนี้ไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น